รอยช้ำหลังฉีดโปรเเกรม Rejuran S สาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลที่ถูกต้อง

การฉีด โปรเเกรม Rejuran S เพื่อฟื้นฟู หลุมสิว อาจทำให้เกิด รอยช้ำ ได้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงชั่วคราวและไม่เป็นอันตราย

สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยช้ำหลังฉีด Rejuran S 

1.การกระทบต่อเส้นเลือดฝอย
เนื่องจาก Rejuran S ต้องฉีดสาร PN ด้วยเข็มเล็ก ๆ เข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้บริเวณ หลุมสิว จึงมีโอกาสที่ปลายเข็มจะ กระทบเส้นเลือดฝอย ทำให้เกิดการรั่วไหลของเลือดและเป็น รอยช้ำ ได้เป็นปกติ

2. ความหนาแน่นของเข็ม
การฉีด Rejuran S ในบริเวณหลุมสิว ต้องใช้เทคนิค ฉีดหลายจุด (Multi-point Injection) ในพื้นที่จำกัด ซึ่งทำให้มีโอกาสเกิด รอยช้ำเล็กน้อย ได้มากขึ้น

3. ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด
การรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด (เช่น แอสไพริน, น้ำมันปลา, วิตามินอี) ก่อนฉีด Rejuran S อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิด รอยช้ำ ได้ง่ายขึ้น

วิธีการดูแลตนเองและลดรอยช้ำอย่างถูกต้อง

การดูแลรอยช้ำ (0-48 ชม.)

รอยช้ำ หลังฉีด Rejuran S มักหายไปเองใน 7-14 วัน แต่สามารถดูแลให้ แลดูจางลง เร็วขึ้นได้

• ประคบเย็น: ประคบเบา ๆ เพื่อลดอาการบวมและห้ามเลือด

• งดแต่งหน้า/ล้างหน้า: งดใน 6-12 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

• งดความร้อน/กิจกรรมหนัก: หลีกเลี่ยงซาวน่า, การออกกำลังกายหนัก หรือความร้อนสูง

• ยาแก้ปวด: ทานได้ตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการปวดระบม

ในช่วง 1-7 วันหลังฉีด

ควรเน้นการฟื้นฟูและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่รบกวนการซ่อมแซมผิว

• บำรุงผิว: ใช้ครีมเพิ่ม ความชุ่มชื้นสูตรอ่อนโยน และทาครีมลดรอยช้ำ (ตามแพทย์สั่ง)

• ข้อห้าม: งดดื่มแอลกอฮอล์/บุหรี่ และ หลีกเลี่ยงการกดนวด บริเวณที่ฉีด

• งดสารกระตุ้น: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, Retinol หรือวิตามินซีเข้มข้น

สรุป รอยช้ำหลังฉีด Rejuran S เป็นผลข้างเคียงชั่วคราวที่พบได้บ่อย สาเหตุหลักมาจากการกระทบต่อเส้นเลือดฝอยขณะฉีดสาร PN เข้าสู่บริเวณ หลุมสิว รอยช้ำมักจะ แลดูจางลง และหายไปได้เองภายใน 7-14 วัน